ร้านตู้ขายมือถือกำลังจะกลายเป็นตำนาน

หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ซื้อหาอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์ เติมเงินออนไลน์ สอบถามราคา หรือเดินผ่านแล้วถูกกวักมือเรียกจากร้านตู้ขายมือถือตามห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะยุคฟีเจอร์โฟนที่ถือเป็นยุคทองร้านรวงเหล่านี้ เป็นธุรกิจที่บูมมาก แม้แต่กูรูสายธุรกิจต่างก็มองว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่สร้างรายได้อย่างมหาศาล ควรค่าแก่การลงทุนแน่นอน แต่ปัจจุบันในยุคสมาร์ทโฟนทุกอย่างกลับตาลปัตร ร้านตู้ขายมือถือโดยเฉพาะในต่างจังหวัดเริ่มเงียบเหงา ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่องและทยอยปิดตัวจำนวนมาก สาเหตุทั้งหลายที่ทำให้ร้านค้าลักษณะนี้กำลังจะเหลือเพียงแค่ตำนานก็เพราะปัจจัยดังต่อไปนี้

                ค่าใช้จ่าย ภาระหนักของธุรกิจนี้คือค่าเช่าพื้นที่และการสต็อกสินค้า เพื่อการขายสินค้าให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น ร้านรวงเหล่านี้จึงมีความจำเป็นต้องตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ยิ่งห้างดังก็ยิ่งมีราคาค่าเช่าพื้นที่แพง อีกส่วนคือสินค้าที่ต้องนำมาสต็อก โดยในอดีตร้านตู้เหล่านี้นำสินค้ามาจากนายหน้า แหล่งจำหน่ายหรือรับมาจากผู้ผลิตโดยตรงในราคาที่ถูกกว่าราคาขายจริงค่อนข้างมาก แถมเมื่อนำมาจำหน่ายก็สามารถกำหนดราคาได้เองอีกต่างหาก ทำให้สินค้าจากร้านตู้หลาย ๆ ร้านราคาสูงกว่าท้องตลาด เพราะเป็นธุรกิจที่มีช่วงทำกำไรมากจึงรับภาระค่าใช้จ่ายได้สบาย ๆ แต่ในปัจจุบันไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีแหล่งเปรียบเทียบราคา มีทางเลือกมาก ร้านตู้ขายมือถือจึงต้องกำหนดราคาให้สอดคล้องกับท้องตลาดเป็นเหตุให้กำไรหดหายและรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว

                พฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและบริการต่างไปจากแต่ก่อน ปัจจุบันผู้บริโภคกลุ่มใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือราคาถูกหรือไม่ก็ราคาแพงไปเลย กลุ่มผู้บริโภคที่ใช้มือถือราคาแพงก็มักจะเลือกซื้อกับแหล่งที่มีการรับประกัน มีโปรโมชั่น และระบบผ่อนชำระ ในขณะที่ผู้ใช้มือถือราคาถูกก็นิยมการซื้อกับร้านค้าออนไลน์มากกว่า ส่วนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระดับกลางซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าสองกลุ่มข้างต้นก็นิยมซื้อโทรศัพท์แบบติดสัญญาจากค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายฯ เป็นปัญหาที่ทำให้ร้านตู้ขายมือถืออยู่ในความสุ่มเสี่ยง หากจะสต๊อกสินค้าราคาสูงเกินไปก็เกรงจะขายไม่ออก ขายแต่สินค้าราคาถูกก็ได้กำไรต่ำ

                คู่แข่ง ไม่ใช่เพียงแค่ร้านค้าในลักษณะเดียวกันเท่านั้น ร้านค้าออนไลน์ การลงมาทำตลาดเองของค่ายผู้ผลิต ค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ล้วนเป็นศึกรอบด้านของร้านตู้ขายโทรศัพท์ ปัจจุบันชอปของค่ายยักษ์ใหญ่มีโปรโมชั่นทั้งถูกทั้งแถม ดอกเบี้ย 0% แทบทั้งปี มีสินค้าตัวใหม่ ๆ มานำเสนอตลอด พนักงานก็บริการดี ตอบคำถามได้ การรับประกันก็น่าพอใจ ช้อปปิ้งออนไลน์เองก็จัดแคมเปญถี่ยิบให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคได้มากกว่า โดยรวมแล้วต้องบอกว่าไม่มีอะไรที่ร้านตู้ขายโทรศัพท์จะสามารถสู้ในสังเวียนนี้ได้เลย

                นอกจากปัญหาหลัก ๆ ที่ได้กล่าวไปผู้บริโภคในปัจจุบันยังไม่นิยมซื้อโทรศัพท์มือสองเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วด้วย นั่นทำให้ร้านตู้ขายมือถือแทบจะไม่มีทางเลือกมากนักในธุรกิจนี้ ถ้าไม่นำสินค้าเข้าไปขายในโลกออนไลน์ก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปเป็นร้านซ่อมโทรศัพท์ รับจำนำอุปกรณ์ไอที หรือขายอะไหล่และอุปกรณ์เสริมปลีกย่อยร่วมด้วยจึงจะพอเป็นช่องทางให้อยู่รอดได้ แม้…มันจะเป็นทางรอดที่มีเปอร์เซ็นต์ไม่สูงมากก็ตาม