วิธีเลือกซื้อและมองหา Power Bank

สมาร์ทโฟน หรือ โทรศัพท์มือถือ ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะทำได้ทุกอย่าง และยังสนองความต้องการใช้งาน หลายๆ ด้านของคนเราอย่างไม่มีที่ติ แถมนับวันก็จะยิ่งดีขึ้นเก่งขึ้นด้วยซ้ำ  แต่ความดีและแจ่มแบบนี้ก็แลกมาด้วยข้อด้อยหลายอย่าง เช่นกัน  คือ แบตเตอรี่ที่หมดไวเพราะใช้งานหลายด้าน และจนทุกวันนี้ยังไม่มีใครที่คิดค้นแบตเตอรี่ชนิดที่จะสามารถทำการชาร์จและเก็บไฟให้มือถือทำงานได้มากกว่าหลายๆ วัน ทีเดียวนั้นเอง และด้วยสาเหตุและข้อจำกัดแบบนี้แหละที่ มีการคิดค้น แบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank บ้างก็เรียกว่า แบตเตอรี่พกพา (Portable Battery) วันนี้จึงขอพาพวกเราไปมองหาวิธีเลือกซื้อสินค้าชนิดนี้กัน

ความจุของมัน

เรียกได้ว่าเป็นสเปคอย่างแรกเลย ของแบตเตอรี่สำรอง จะต้องมีดี นั่นคือ ความจุ หรือ ปริมาณของพื้นที่ในการเก็บไฟ บ่อยครั้งที่ทุกคนมองหาปริมาณขนาดระดับ 2 พัน mAh (milliampere-hour) เป็นต้นไป เพราะว่าเครื่องโทรศัพท์ทุกวันนี้ก็จะมีขนาดเล็กแค่ไหนก็จะมีแบตที่ระดับ 2 พันมาให้นั่นเอง  แต่ถ้าเราเลือกซื้อแบตสำรองที่ 2 พันเท่ากันก็หมายความชาร์จได้เต็มอีกครั้งเดียวเท่านั้นเอง  แถมถ้าคำนวณระดับการสูญเสียของไฟระหว่างชาร์จ เช่น ตามเส้นเคเบิ้ล ตามช่อง circuit แปลงกระแส ไฟที่ได้อาจจะไม่ถึงรอบเต็มๆ ด้วยซ้ำ ดังนั้น เราแนะนำให้ซื้อความจุมากกว่าขนาดแบตของตัวเองสัก 2 เท่า แม้ว่ามันอาจจะแพงกว่า หนักกว่า และใหญ่กว่านั่นเอง  และอีกนิด ความจุ ยังหมายถึงในแง่ของมี USB Port สำหรับการชาร์จไฟมากกว่า 1 เครื่องในเวลาเดียวกันก็ได้ จึงต้องซื้อตัวที่มีช่อง USB เยอะไว้ก่อน

สังเกตกระแส Input ของมือถือ

มือถือทุกวันนี้ส่วนมากจะมีกำลังการนำไฟ Input / Output อยู่ที่ 1 A ไปจนถึง 2 A นี่หมายถึงปริมาณไฟ และความแรงของกระแสเข้าออกจะสามารถ รองรับได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น สังเกตได้ว่า แบตเตอรี่สำรองบางตัวที่ ปริมาณกระแสไฟที่มีการรับน้อยกว่าของมือถือ จะทำให้ชาร์จไฟได้ช้ามากจนเหมือนว่าไม่เข้าด้วยซ้ำ  นี่ก็เพราะว่า เราไม่ได้ซื้อแบตสำรองที่มีปริมาณของการนำไฟเข้าออกเท่ากันหรือมากกว่าของมือถือนั้นเอง  บางที เลยชาร์จกับไฟผนังบ้านแล้วดูเข้าเร็วกว่ามาก  นั่นก็เพราะไฟบ้านนั้นมีกระแสที่สูงมากนั้นเอง และเรื่องนี้ยังฝากไว้อีกด้วยว่า การใช้ไฟที่มากกว่าของแบตสำรอง ไม่ได้มีปัญหาต่อเครื่องมือถือว่าจะเสียหรือเสื่อมเร็วแต่อย่างใด  เพราะมือถือส่วนมากออกแบบมาให้ นำไฟเข้าเลี้ยงเครื่องตัวเองเท่าที่จำเป็นนั่นเองนอกเหนือจากนั้นจะตัดเองอัติโนมัติทันที หายห่วงได้เลย

สุดท้ายแล้ว การเลือกซื้อแบตสำรองก็ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่เราจะต้องทำการเปรียบเทียบ สเปคของมือถือเราก่อน และจึงนำไปเลือกจุดเด่นของแบตสำรองที่ตอบโจทย์ตามที่ว่าไปแล้ว และอย่าลืมว่า ตอนนี้เราต้องหวังพึ่งแบตสำรองเหล่านี้ไปก่อนจนกว่าจะถึงยุคที่แบตรุ่นใหม่จะได้ใช้ยาวนานของจริง